ipro168.com เสือใต้  โชว์ฟอร์มบุก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เฉือนชนะ 1-0 คว้า แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6

บาเยิร์น มิวนิค เฉือนเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไป 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2019/20 จากลูกโหม่งของ คิงสลีย์ โกม็อง คว้า แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019-2020 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ บาเยิร์น มิวนิค โดยแข่งขันกันที่สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส

โธมัส ทูเคิล กุนซือของเปแอสเช เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามนักเตะประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น อังเคล ดิ มาเรีย, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์

ส่วนทาง บาเยิร์น มิวนิค  ฮันซี ฟลิค วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำเกมรุกร่วมกับ คิงส์ลีย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์ และ แซร์ช กนาบรี้

เริ่มเกมครึ่งแรก นาทีที่ 6 บาเยิร์นฯ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะยิงไกลของ ติอาโก อัลคันทารา บอลพุ่งข้ามคานออกไปจากนั้นนาทีที่ 18 เปแอสเช ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป จ่ายบอลให้ เนย์มาร์ หลุดไปซัดในเขตโทษฝั่งขวา มานูเอล นอยเออร์ เซฟมาเข้าทาง เนย์มาร์ พยายามเปิดยัดเข้ามาอีกที   นอยเออร์ ก็ใช้ขาเซฟออกไปได้อีก

นาทีที่ 22 โอกาสของบาเยิร์นฯ จากจังหวะที่ อัลฟอนโซ เดวีส์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ บอลมาเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี กลับตัวยิงด้วยขวา บอลชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

2 นาที เปแอสเช เกือบขึ้นนำ เมื่อ อันเดร์ เอร์เรรา จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ อังเคล ดิ มาเรีย ศัดข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

ถึงนาทีที่ 32 บาเยิร์นฯ น่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อ โธมัส มุลเลอร์ เปิดบอลจากฝั่งขาเข้าเขตโทษ เพรสเนล คิมเพมเบ กองหลังเปแอสเช โหม่งสกัดไม่ดีบอลเลยมาถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ได้โขกเน้นๆ แต่ เคย์เลอร์ นาบาส เซฟไว้ได้

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 เปแอสได้โอกาสทอง เมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป มีจังหวะซัดโล่งๆ ในเขตโทษ แต่เบาเกินไป มานูเอล นอยเออร์ รับสบาย จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิก ยังเสมอ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 บาเยิร์นฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โจชัว คิมมิช เปิดบอลจากแนวลึกเข้าไปในเขตโทษ และเป็น คิงสลีย์ โกมาน โขกเข้าไปตุงตาข่าย  นาทีที่ 70 ปารีส ได้โอกาสยิงจ่อ ๆ จาก มาควินญอส แต่ยังคงไปติดเซฟของ นอยเออร์ อีกครั้ง

บาเยิร์น พยายามเน้นครองบอลมากขึ้น ส่วน ปารีส พยายามบุกเพื่อหาจังหวะลุ้นตีเสมอ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ จบเกม บาเยิร์น มิวนิค เฉือนเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไป 1-0 คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้สำเร็จ

เกมนี้เป็นนัดแรกจาก 35 เกมหลังสุดในฟุตบอลยุโรปที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยิ่งประตูคู่แข่งไม่ได้ ซึ่งนัดล่าสุดที่พวกเขาจบด้วยเกมศูนย์ต้องย้อนกลับไปในปี 2016 ที่พ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ 0-1

บาเยิร์น เป็นทีมแรกที่ทำสถิติเอาชนะคู่แข่งใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ทุกเกมตั้งแต่นัดแรกจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ นอกจากนี้พวกเขายังทำสถิติชนะติดต่อกันถึง 11 นัดเป็นทีมแรกในประประวัติศาสตร์ถ้วยใบนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ บาเยิร์น ยังเป็นทีมที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ยิงประตูในรายการนี้ได้ถึง 500 ลูก ต่อจาก บาร์เซโลนา (517 ประตู) และ เรอัล มาดริด (567 ประตู)

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

บาเยิร์น มิวนิก:มานูเอล นอยเออร์ (GK), เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ เดวีส์, โจชัว คิมมิช, ติอาโก อัลคันทารา, เลออน โกเรตซ์กา, โธมัส มุลเลอร์, คิงสลีย์ โกมาน, แซร์จ กนาบรี และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง: เคย์เลอร์ นาบาส (GK), เพรสเนล คิมเพมเบ, ติอาโก ซิลวา, ติโล เคห์เรอร์, ฮวน เบอร์นาต, อันเดร์ เอร์เรรา, มาร์กินญอส, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย, คีเลียน เอ็มบัปเป และ เนย์มาร์

————————————————————————

สมัคร โปรโมชั้นภายในเดือนนี้ รับโบนัสร้อนแรง แอดเลย ที่ line: @iprobet168

This content is restricted to site members. If you are an existing user, please log in. New users may register below.